วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โรค มือ เท้า ปาก

 โรค มือ เท้า ปาก

เป็นโรคติดเชื้อเกิดจากเชื้อไวรัสอยู่ในลำไส้ หรือเรียกว่าเอนเทอโรไวรัส(Enterovirus) มักเกิดขึ้นกับเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี พบได้ตลอดปี แต่พบมากในช่วงฤดูฝน


โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และไม่มียารักษาโดยตรง แพทย์จะรักษาตามอาการ เด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะเริ่มมีอาการจากมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วันจะมีอาการเจ็บในปาก  กลืนน้ำลายไม่ได้  กินอาหารไม่ได้เนื่องจากมีตุ่มขึ้นในปาก โรคนี้ติดต่อง่าย โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย โดยเชื้อไวรัสติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล หรืออุจจาระของผู้ป่วย อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน ปกติโรคนี้มักไม่รุนแรง  บางรายอาจมีอาการรุนแรงได้  จึงควรดูเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบมีไข้สูง ซึม ไม่กินอาหาร อาเจียน หอบ แขนขาอ่อนแรง ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลทันที เนื่องจากอาจเกิดโรคแทรกซ้อน เช่นสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ น้ำท่วมปอด ถึงขั้นเสียชีวิตได้

  1. ควรดูแลรักษาความสะอาดทั่วไป  และสุขอนามัยส่วนบุคคลโดยล้างมือ ฟอกสบู่ให้สะอาดก่อนเตรียมอาหาร
    และหลังขับถ่ายทุกครั้ง
  2. รับประทานอาหารที่สะอาด  ปรุงใหม่ๆ  ไม่มีแมลงวันตอม
  3. ควรใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหาร  ไม่ใช้แก้วน้ำหลอดดูด  ช้อน  ขวดนม  ร่วมกับผู้อื่น
  4. หลีกเลี่ยงการคลุกคลี  อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย  แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ  และให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายป่วย
  5. หลีกเลี่ยงการนำทารกและเด็กเล็กเข้าไปในสถานที่แออัด หรือที่ๆเด็กอยู่ร่วมกันจำนวนมาก หรือเล่นของเล่นร่วมกันในที่สาธารณะในช่วงที่มีโรคระบาดมาก
  6. ผู้ดูแลเด็กต้องตัดเล็บให้สั้น  หมั่นล้างมือบ่อยๆและรีบล้างมือให้สะอาดโดยเร็ว  เมื่อเช็ดน้ำมูกน้ำลาย  หรือเปลี่ยนผ้าอ้อม  เสื้อผ้าที่เปื้อนอุจจาระ
  7. ทำความสะอาดพื้น  เครื่องใช้  หรือของเล่นเด็กที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรค  อย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำยาฟอกขาว  (คลอร็อกซ์)  อัตราส่วน  คือน้ำยา 20 ซีซี. ต่อ น้ำ 1,000 ซีซี. และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
  8. ถ้าพบผู้ป่วยเป็นโรคมือ  เท้า  ปาก  ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็วเพื่อดำเนินการควบคุมโรคต่อไป